ภาพ “พระนารายณ์” หรือ “พระวิษณุ” ในโลโก้โรงเรียนนารายณ์คำผงวิทยา เป็นภาพใช้แทน “นารายณ์แปลงรูป” หรือ “นารายณ์อวตาร”
“พระนารายณ์” หรือ “พระวิษณุ” หนึ่งในมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่แห่งศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และเป็นหนึ่งใน 3 มหาเทพสูงสุด หรือ “ตรีมูรติ” อันได้แก่ พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ ความยิ่งใหญ่ของ “พระนารายณ์” เป็นที่ทราบกันดีว่า พระองค์มักใช้วิธี “แปลงรูป” หรือ “อวตาร” คือ การแบ่งภาคมาเกิดบนโลกมนุษย์ เป็นเทพองค์อื่น บุคคลอื่น หรือสรรพสัตว์อื่นใด ตามมูลเหตุที่แตกต่างกันออกไป ด้วยวัตถุประสงค์สำคัญในการปราบยุคเข็ญ ช่วยขจัดทุกข์ยากและภัยพิบัติต่างๆ ให้หมดสิ้นไปจากโลกมนุษย์ นอกจากนี้พระองค์จะทรงประทานพรเพื่อดับความทุกข์ทั้งปวง ประทานความสุขสมปรารถนา ลาภผล อำนาจ วาสนา บารมี ทรัพย์สินเงินทอง หาก ผู้ขอพรเป็นผู้ประพฤติดีมีศีลธรรม
วิชานารายณ์แปลงรูป หรือ คาถานารายณ์แปลงรูป เป็นหนึ่งในบทสวด “คาถาอิติปิโส 8 ทิศ” หรือ “คาถายันต์เกราะเพชร” ซึ่งตัดมาจากส่วนหนึ่งของ “ธงมหาพิชัยสงคราม” ตามพระตำรามหาพิชัยสงคราม โดยในตำรายันต์จากหนังสือ “พระคัมภีร์พระเวทฯ” ฉบับ จัตตุถบรรพ ของ อ.เทพย์ สาริกบุตร เล่ม 4 ได้ให้ชื่อยันต์นี้ว่า “ยันต์พระอิติปิโส เกราะเพ็ชร” มีพุทธานุภาพหลายด้าน เพราะเป็นการอัญเชิญองค์ทวยเทพให้มาคุ้ม ครองในทิศต่างๆ ทำให้อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาด และป้องกันภยันตรายรอบด้าน ค้ำจุนดวงชะตา เสริมบารมี เสริมหน้าที่การงานและการเงิน
อิติปิโส 8 ทิศ ปฐมบทแห่งนารายณ์แปลงรูป
ยันต์พระอิติปิโส เกราะเพ็ชร เป็นการนำเอา “คาถาบทสรรเสริญพระพุทธคุณ” คือ “อิติปิโส ภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจรณสัมปันโน สุคโต โลกวิทูอนุตตโร ปุริสทัมมสารถิ สัตถา เทวมนุสสานัง พุทโธ ภควาติ” ที่เรียกกันว่า “ห้องพระพุทธคุณ” มาเขียนเป็น “ตัวขอม” โดยเขียนลงมา 8 คำ จากนั้นไปขึ้นต้นใหม่เรียงกันไปจนครบ แล้วอ่านตามขวางได้ดังนี้
อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา ชื่อกระทู้ 7 แบก ประจำอยู่ทิศบูรพา (ทิศตะวันออก) : เสกเป่าแก้พิษสัตว์กัดต่อย เสกข้าวกินทุกวันป้องกันศาสตราวุธ
ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง ชื่อฝนแสนห่า ประจำอยู่ทิศอาคเนย์ (ทิศตะวันออกเฉียงใต้) : เสกทำน้ำมนต์ดับพิษไข้ ผีเจ้าเข้าทรง และแคล้วคลาด
ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท ชื่อนารายณ์เกลื่อนสมุทร ประจำอยู่ทิศทักษิณ (ทิศใต้) : เสกภาวนากันภูตผีปีศาจ เป่าพิษบาดแผลต่างๆ
โส มา ณะ กะ ริ ถา โธ ชื่อนารายณ์คลายจักร ประจำอยู่ทิศหรดี (ทิศตะวันตกเฉียงใต้) : เสกครบ 108 จบ ทำน้ำมนต์ ไล่ผี ถอนคุณไสยต่างๆ
ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ ชื่อนารายณ์ขว้างจักรตรึงไตรภพ ประจำอยู่ทิศประจิม (ทิศตะวันตก) : เสกพรมร่างคนไข้ ไล่ภูตผีปีศาจ
คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ ชื่อนารายณ์พลิกแผ่นดิน ประจำอยู่ทิศพายัพ (ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ) : เสกทำน้ำมนต์ ป้องกันคุณไสยต่างๆ และกลับร้ายกลายเป็นดี
วา โธ โน อะ มะ มะ วา ชื่อตวาดป่าหิมพานต์ ประจำอยู่ทิศอุดร (ทิศเหนือ) : มหาอำนาจเสกสิ่งของต่างๆ : ด้าย หวาย มีด ข้าวสาร ขับไล่ ผีบ้านผีป่า
อะ วิ สุ นุต สา นุส ติ ชื่อ นารายณ์แปลงรูป ประจำอยู่ทิศอีสาน (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) : เสกเป่าป้องกันตัวเวลาเดินทาง แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันคุณไสย
สำหรับ บทนารายณ์แปลงรูป “อะ วิ สุ นุต สา นุส ติ” จะเป็นวิชาที่ทำให้เกิดเสน่ห์เมตตาไหลหลงต่อคนที่พบเห็น หากมีเรื่องใดที่ร้ายแรงก็จะกลับกลายเป็นดี ในตำราไสยศาสตร์โบราณมีกล่าวบันทึกไว้ถึงอานุภาพของวิชานี้ว่า … มีฤทธิ์ มีเดชมาก อุปมาดั่งพระนารายณ์อวตารแปลงรูป สามารถช่วยเหลือได้ในทุกโอกาส ทั้งเสน่ห์เมตตามหานิยม กำบังอำพรางตัว … แต่การจะนำเอาคาถาไปกำกับรูปของพระนารายณ์ไม่ใช่ของง่ายๆ ดังนั้นคนโบราณจึงมักนำ “วิชานารายณ์แปลงรูป” มาดัดแปลงเป็น “ตัวยันต์” กำกับพระคาถามากกว่า และผู้ที่จะสืบทอดวิชานี้ก็จะมีไม่มากนัก เพราะการจะเข้าถึงศาสตร์แห่งพระคาถา ต้องเป็นผู้ที่เข้าใจอย่างถ่องแท้ รู้ถึงอุปเท่ห์พระคาถา เป็นผู้บำเพ็ญบุญกุศล รักษาศีล เจริญภาวนาเป็นที่ตั้ง
เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หนึ่งในผู้หมั่นศึกษาจนสำเร็จวิชา “นารายณ์แปลงรูป” ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงปู่แสง ที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ เรียกขานว่า “ขรัวตาแสง” อดีตเจ้าอาวาสวัดมณีชลขัณฑ์ จ.ลพบุรี ซึ่งท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ นำมาใช้ได้อย่างสมบูรณ์ขณะหลบเลี่ยงการรับแต่งตั้งสมณศักดิ์เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ ในสมัยรัชกาลที่ 4 นอกจากนี้ยังมีพระเกจิ อาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษไม่กี่รูปที่ได้เคล็ดวิชาและศึกษาจนแตกฉาน สามารถสร้างวัตถุมงคล และเครื่องรางของขลังสุดเข้มขลังมากมาย เป็นที่แสวงหาสืบมาจนปัจจุบัน
“เหรียญสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) รุ่นนารายณ์แปลงรูป” ของวัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง 17 เมษายน 2560
กล่าวกันว่า เหรียญนารายณ์แปลงรูป มีพุทธคุณสูงส่ง เสน่ห์ เมตตามหานิยมเป็นเลิศ พลิกผันสรรพสิ่งที่เลวร้ายให้กลับกลายไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งชีวิต อาชีพการงาน และสิ่งอวมงคลทั้งหลาย
ประวัติของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) กับวิชานารายณ์แปลงรูป
จากประวัติของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่เขียนขึ้นโดยมหาอำมาตย์ตรี พระยาทิพย์โกษา (สอน โลหะนันท์) และท่านพระครูปลัดมหาเถรานุวัตร (มหาแพ) และจัดพิมพ์เป็นธรรมทานเมื่อคราว “สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี” ความตอนหนึ่งได้กล่าวถึง “วิชา” ที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ทรงใช้ขณะหลบเลี่ยงการได้รับแต่งตั้งสมณศักดิ์ให้เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ โดยท่านสามารถเปลี่ยนแปลงใบหน้าจนทำให้คนที่รู้จักจำไม่ได้ และกลับเรื่องร้ายแรงของชีวิตให้กลายเป็นเรื่องดีงามเหมือน “การกลับตาลปัตร”
…เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) เสด็จสวรรคต เหล่าข้าราชบริพารได้ทูลอัญเชิญทูลกระหม่อม พระราชาคณะวัดบวรนิเวศวรวิหาร ให้เสด็จนิวัติออกเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ เป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ซึ่งขณะนั้นพระมหาโตอายุได้ 64 ปี ท่านตัดสินใจออกธุดงค์หนีหายไปจากวัด เป็นเวลานานนับเดือนก็ยังไม่กลับวัด จนล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 4 กริ้วมากถึงกับมีรับสั่งว่า “ท่านเหาะก็ไม่ได้ ดำดินก็ไม่ได้ แหกกำแพงจักรวาลหนีก็ยังไปไม่ได้” และรับสั่งให้พระญาณโพธิออกติดตาม แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถพบเจอ… พระองค์ทรงมีรับสั่งว่า “ฉันจะตามหาเอง” ครั้นถึงเดือนเจ็ดในปีเดียวกันนั้น มีกระแสรับสั่งถึงเจ้าเมืองทั่วราชอาณาจักร ให้จับ “พระมหาโต” ส่งมายังเมืองหลวงให้ได้ .. แต่แม้จะมีท้องตรารับสั่งเร่งรัดอย่างไรก็ตาม ก็ไม่สามารถพบพระมหาโตได้ เนื่องจากท่านได้ลองใช้วิชาเปลี่ยนหน้าที่ร่ำเรียนมา ทำให้คนรู้จักกลับจำไม่ได้ เห็นเป็นพระองค์อื่น ปล่อยท่านไปก็มี
…ครั้นพระมหาโตมาพิจารณาเห็นว่า การที่ทางการจับพระสงฆ์ไปบีบคั้นให้ตามหาตัวท่าน ทำให้พระสงฆ์ต้องลำบากโดยไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเป็น ท่านจึงได้ไปแสดงตัวกับ “กำนันบ้านไผ่” เพื่อให้ส่งตัวลงมายังพระนคร พระญาณโพธิได้พาเข้าเฝ้าล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 4 ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ท่ามกลางเหล่าข้าราชบริพาร ซึ่งพระองค์ก็มิได้กริ้วตามที่ทุกคนคาดการณ์แต่ประการใด รับสั่งเพียงว่า “เป็นสมัยของฉันปกครองแผ่นดิน ท่านต้องช่วยฉันพยุงพระบวรพุทธศาสนาด้วยกัน” พร้อมทรงถวายสัญญาบัตรตาลปัตรแฉกหักทองขวางด้ามงาเป็นพระราชาคณะที่ “พระธรรมกิตติ” ครองตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ธนบุรี…
ในบันทึกนั้นได้กล่าวกันว่า การที่พระมหาโตใช้วิชาอาคมเปลี่ยนหน้านั้น วิชานี้เรียกว่า “นารายณ์แปลงรูป” ซึ่งมีพุทธคุณสูงส่งในเรื่อง “กลับร้ายให้กลายเป็นดี” นั่นเอง ในตำราไสยศาสตร์โบราณยังได้กล่าวถึงด้านอานุภาพเอาไว้ว่า มีฤทธิ์ มีเดชมาก อุปมาดั่ง “พระนารายณ์” อวตารแปลงรูปลงมา สามารถช่วยเหลือได้ในทุกโอกาส ทั้งเสน่ห์เมตตามหานิยม กำบังอำพรางตัว หากแต่การสร้างให้ออกมาเป็นรูปขององค์พระนารายณ์เลยทีเดียวมักจะไม่มีใครทำกัน คนโบราณจึงนำมาดัดแปลงเป็น “ตัวยันต์” กำกับคาถามากกว่า
ได้อ่านเรื่องราวข้างต้นนี้แล้ว ผมคิดว่า โรงเรียนนารายณ์คำผงวิทยา ควรจะสร้างการเรียนรู้จากโลโก้ประจำโรงเรียนได้ ไม่ว่า จะเป็น วิชาการเขียนแบบและวาดภาพพระนารายณ์ จัดทำของที่ระลึกประจำโรงเรียนเป็นเรื่องราวของพระนารายณ์ ผ้ายันต์พระนารายณ์ เหรียญนารายณ์แปลงรูป รวมถึงการสร้างสมาธิจากการสวดอิติปิโส 8 ทิศ ฯลฯ
เรียบเรียงจาก : http://www.sookjai.com/วิชานารายณ์แปลงรูป