ร.ศ. 112 (พ.ศ.2436) หลังจากฝรั่งเศสได้เข้ายึดครองเมืองจันทบุรีและได้ส่งกองทหารเข้ามาประจำการบริเวณค่ายตากสิน และบริเวณปากน้ำแหลมสิงห์ จากนั้นได้มีการก่อสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นสถานที่ทำงานและที่พักของเหล่านายทหารและพลทหารทั้งทหารผรั่งเศสและทหารญวน โดยฝรั่งเศสได้ตั้งเตาเผาอิฐ กระเบื้อง เพื่อใช้ในการก่อสร้างอาคาร ที่เรียกว่า “ตึกแดง”
ตึกแดง เป็นอาคารที่ฝรั่งเศสสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2436 (ร.ศ. 112) เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนชั้นเดียว กว้าง 7 เมตร ยาว 32 เมตร หลังคาและตึกเป็นสีแดง จึงเรียกว่า “ตึกแดง “ภายในแบ่งเป็น 5 ห้อง แต่ละห้องตรงกลางมีประตูและทางเดินเชื่อมติดต่อกันทุกห้อง ตึกแดงถูกสร้างขึ้นในบริเวณที่ตั้งของป้อมพิฆาตปัจจามิตรที่ถูกรื้อไป วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างบางส่วนได้นำมาจากเมืองไซ่ง่อน โดยฝรั่งเศสสร้างขึ้นเพื่อเป็นกองบัญชาการและที่พักนายทหารที่รักษาการบริเวณปากน้ำแหลมสิงห์ภายหลังจากที่ฝรั่งเศสถอนกำลังทหารออกจากเมืองจันทบุรีเมื่อ พ.ศ. 2447 ตึกแดงได้รับการบูรณะเมื่อ พ.ศ. 2527
ประวัติปืนใหญ่ปากน้ำแหลมสิงห์
12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 กลุ่มโบราณคดีใต้น้ำได้รับแจ้งจากชาวประมงว่า พบปืนใหญ่โบราณจมอยู่ในแม่น้ำจันทบุรี บริเวณปากน้ำแหลมสิงห์ ห่างจากท่าเทียบเรือและสะพาน หน้าวัดแหลมสิงห์ไปทางทิศเหนือประมาณ 80 เมตร น้ำลึกประมาณ 4-5 เมตร
หลังจากที่กลุ่มโบราณคดีใต้น้ำได้นำปืนใหญ่โบราณกระบอกดังกล่าวขึ้นมา และผ่านการสงวนรักษาในขั้นต้นแล้ว พบว่าบริเวณลำกล้องปืนระหว่างเพลาปืนกับแท่นรูสายชนวน มีลายนูนเป็นรูปนกอินทรีย์การปีกอยู่บนกิ่งไม้ ที่จะงอยปากคาบงูอยู่ ด้านล่างรูปนกอินทรีย์มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ และตัวเลขอารบิกอยู่ 2 แถว คือ NO 73 และ 44-3-0 นอกจากตัวปืนใหญ่แล้ว ยังพบโซ่ที่พันรอบตัวปืนอยู่ในลักษณะเฉียงรัดเพลาปืนทั้ง 2 ข้าง และที่หัวชองโซ่ข้อใหญ่ที่สุด มีการสลักตัวเลข 1893 ไว้ด้วย
จากหลักฐานที่ปรากฎบนตัวปืนใหญ่รูปอินทรีย์จิกงูนั้นเป็นเครื่องหมายหรือตราสัญลักษณ์ของจักรพรรดินโปเลียน โบนาปาร์ท (Napoleon Bonaparte) ที่ปกครองฝรั่งเศสในช่วงปี ค.ศ. 1767-1821 (พ.ศ. 2312-2364)ขณะที่ช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ.112 เมื่อฝรั่งเศสยึดเมืองจันทบุรีเป็นประกันนั้น ตรงกับ ค.ศ. 1893 (พ.ศ. 2463) มีระยะเวลาภายหลังรัชกาลจักรพรรดินโปเลียนประมาณกว่า ๗๐ ปี อาจมีความเป็นไปได้ว่าปืนใหญ่กระบอกดังกล่าวถูกผลิตในสมัยจักรพรรดินโปเลียน และมีการใช้งานต่อเนื่องมาจนถึงช่วงที่ฝรั่งเศสเข้าสู่การปกครองแบบสาธารณรัฐ ที่ลัทธิการล่าอาณานิคมของฝรั่งเศสขยายเข้าสู่กลุ่มประเทศในกลุ่มลุ่มน้ำโขงรวมทั้งประเทศไทยด้วยและหลักฐานตัวเลข 1893 ที่สลักอยู่นั้น น่าจะเป็นปีที่ผลิตโซ่คือ ปีคริสตศักราช 1893 ซึ่งเป็นระยะเวลาที่อยู่ในช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ที่ฝรั่งเศสเข้ายึดเมืองจันทบุรีเป็นประกันตั้งแต่ปี ค.ศ.1893-1904 หรือ พ.ศ. 2436-2447 การพบปืนใหญ่ในลักษณะมีโซ่พันรอบตัวปืนนั้น น่าจะเป็นการใช้โซ่ผูกรัดปืนใหญ่เพื่อทำการเคลื่อนย้าย และอาจเกิดอุบัติเหตุระหว่างการเคลื่อนย้าย จนทำให้ปืนใหญ่กระบอกนี้ตกลงไปในแม่น้ำจันทบุรีเมื่อวิเคราะห์และประมวลข้อมูลต่างๆ จากหลักฐานดังกล่าวจึงสันนิษฐานได้ว่าปืนใหญ่โบราณกระบอกนี้ น่าจะเป็นปืนใหญ่ของกองทหารฝรั่งเศสที่เข้ามาตั้งกองบัญชาการที่เมืองจันทบุรีและบริเวณปากน้ำแหลมสิงห์ ในช่วงวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 และการกำหนดอายุ โดยอาศัยตราสัญลักษณ์ของจักรพรรดินโปเลียน ปืนใหญ่กระบอกนี้น่าจะมีอายุจนถึงปัจจุบัน
ชมคลิป เที่ยวชม ตึกแดง ปืนใหญ่ปากน้ำแหลมสิงห์ ร.ศ.112
ชมคลิป เที่ยวชม ปากน้ำแหลมสิงห์