สำหรับท่านที่พึ่งเข้ารับราชการครูใหม่ๆ ก็อยากแนะนำให้ไปสมัครเป็นสมาชิกกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ในจังหวัดของตนเอง ไม่กู้ก็ไม่เป็นไรครับ อย่างน้อยสร้างความอุ่นใจเมื่อยามต้องใช้เงินฉุกเฉิน และผมเห็นครูบาอาจารย์หลายท่านเป็นสมาชิกสหกรณ์ ไม่เคยกู้ มีแต่นำเงินไปฝากกับสหกรณ์ เพราะดอกเบี้ยเงินฝากมักจะสูงกว่าธนาคารทั่วไป ปันผลแต่ละครั้งก็รับเละ ส่วนท่านที่เป็นสมาชิกมานานและใช้บริการมาอย่างต่อเนื่อง ก็ควรต้องนำเงินดังกล่าวมาใช้ตามวัตถุประสงค์ และควรนำส่วนหนึ่งมาลงทุนหรือดำเนินการเพื่อก่อให้เกิดรายได้ โดยเฉพาะถ้าปลอดหนี้ได้ยิ่งดี เพราะการไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ (แล้วผมจะหาช่องทางการลงทุนต่างๆ มาเล่าสู่กันฟังในโอกาสต่อไปนะครับ)
ความรู้เกี่ยวกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู
สหกรณ์ เป็นองค์การปกครองตนเองของบรรดาบุคคล ซึ่งรวมกลุ่มกันด้วยความสมัครใจ เพื่อสนองความต้องการอันจำเป็นและความหวังรวมกันทางเศรษฐกิจ สังคม โดยการดำเนินวิสาหกิจที่พวกเขาเป็นเจ้าของร่วมกัน และควบคุมตามหลักประชาธิปไตย สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ตั้งขึ้นหลังจากที่มีพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 โดยมีการวางนโยบายต่างๆ ในแต่ละจังหวัดขึ้นเองตามความเหมาะสมในพื้นที่
คุณค่าของสหกรณ์
สหกรณ์ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งคุณค่าของการช่วยตัวเอง ความรับผิดชอบต่อตนเอง ประชาธิปไตย ความเสมอภาคความเที่ยงธรรมและเอกภาพ สมาชิกสหกรณ์เชื่อมั่นในคุณค่าทางจริยธรรมแห่งความสุจริต ความเปิดเผยความรับผิดชอบต่อสังคมและความเอื้ออาธรต่อผู้อื่น โดยเจริญรอยตามขนบธรรมเนียมของผู้ริเริ่มการสหกรณ์
ความหมายสหกรณ์ออมทรัพย์ (Savings Cooperative)
คือ องค์การที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหมู่สมาชิก โดยสมาชิกแต่ละคนออมรายได้ฝากไว้กับสหกรณ์เป็นประจำสม่ำเสมอในลักษณะการถือหุ้นและฝากเงิน นอกจากนั้น หากสมาชิกประสบความเดือดร้อนเกี่ยวกับการเงินก็สามารถช่วยเหลือได้โดยการให้กู้ยืม ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะต่ำกว่าสถาบันการเงินอื่น สมาชิกสหกรณ์ทั้งหมดจะเป็นผู้ที่อยู่ในหน่วยงานเดียวกันและมีเงินเดือนประจำด้วย
สหกรณ์ออมทรัพย์มีสถานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายสหกรณ์ และกระทรวงการคลังได้ประกาศให้สหกรณ์ออมทรัพย์คิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมได้เช่นเดียวกับสถาบันการเงิน ตามประกาศกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2526
การดำเนินธุรกิจ
สหกรณ์มีทุนดำเนินงานมาจากเงินค่าหุ้น และเงินรับฝากจากสมาชิก ซึ่งมีทั้งเงินฝากประจำและเงินฝากออมทรัพย์โดยไม่มีเงินกู้ยืมจากต่างประเทศ สมาชิกจะต้องส่งชำระค่าหุ้นและชำระหนี้เงินกู้ทุกเดือน ผ่านระบบการหักเงิน ณ ที่จ่าย ทำให้มีเงินทุนหมุนเวียนไหลเข้า สหกรณ์อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน และเงินทุนเหล่านี้ จะนำไปให้กู้ยืมแก่สมาชิกที่เดือดร้อนหรือจำเป็น สินทรัพย์ของสหกรณ์มากกว่าร้อยละ 63.53 จะเป็นการให้เงินกู้แก่สมาชิก
สหกรณ์ออมทรัพย์แห่งแรกของประเทศไทย คือ สหกรณ์ออมทรัพย์ที่จัดตั้งขึ้นในหมู่ข้าราชการสหกรณ์และพนักงานธนาคารเพื่อการพัฒนาสหกรณ์ (ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2529 โดยใช้ชื่อว่า “สหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์ จำกัดสินใช้” ปัจจุบันชื่อว่า “สหกรณ์ข้าราชการสหกรณ์ จำกัด”
สำหรับรายละเอียดในการเป็นสมาชิกและการกู้ยืมเงินประเภทต่างๆ ท่านที่สนใจติดต่อได้ด้วยตนเองที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูประจำจังหวัดของตนเอง กรรมการสหกรณ์ประจำอำเภอ หรือสอบถามรุ่นพี่ที่รับราชการครูในโรงเรียน รับรองได้รับคำตอบดีที่สุดครับ และท่านที่ยังไม่เคยลอง อยากแนะนำให้ลอง เพราะ “รวยเร็ว” (ได้เงินก้อนใหญ่เร็วทันใจ) และ “ถ้าลองแล้ว รับรองจะติดใจ” แล้วจะหาว่าไม่เตือน นะครับ
ขอขอบคุณ : ภาพประกอบ : สหกรณ์ออมทรัพย์ครูสุรินทร์ จาก http://www.wanghansa.com/private_folder/001/skoro_leto.jpg