[คำถาม 1] การสอนวิทยาศาสตร์ ควรจะทำให้เป็นเรื่องสนุก แต่มีปัญหาว่า ถ้าทำให้เรื่องที่สอนสนุกไปทั้งหมด ก็จะได้เนื้อหาน้อย คือสอนไม่ทันหลักสูตร ครูควรทำอย่างไรจึงจะทำให้นักเรียนสนุกกับการสอนวิทยาศาสตร์ โดยที่สามารถสอนเนื้อหาได้ทันตามหลักสูตร
[ความคิดเห็น] :: การสอนวิทยาศาสตร์ให้สนุกเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะเป็นแรงจูงใจให้นักเรียนหันมารักวิทยาศาสตร์และคิดเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น ครูอาจารย์หลายท่านได้สอนโดยทำให้วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกทั้งหมด แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ การสอนไม่ทันตามหลักสูตร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่นักเรียนจะต้องเรียนและครูจะต้องจัดให้นักเรียนให้ครบด้วย ครูจึงต้องเลือกว่า ควรเน้นที่เนื้อหาใดเป็นพิเศษ ควรนำเนื้อหาใดมาทำกิจกรรมให้เป็นที่สนุกสนานเพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดความสนใจใฝ่เรียนรู้และค้นคว้าด้วยตนเองต่อไป แต่ไม่จำเป็นต้องนำทุกเรื่องมาทำเช่นนี้ ในการเรียนการสอน เราสามารถกระตุ้นให้นักเรียนได้คิด สะกิดให้นักเรียนได้ถามได้ เร้าความสนใจในทุกๆเนื้อหา จึงเชื่อว่านักเรียนจะสนุกกับการเรียนและครูก็จะสอนได้ทันตามหลักสูตร
[คำถาม 2] นักเรียนบางคนไม่สนใจเรียนวิทยาศาสตร์เลย ในฐานะครูท่านจะทำอย่างไรให้นักเรียนเอาใจใส่ต่อการเรียนวิทยาศาสตร์
ความคิดเห็น :: เราจะละเลยต่อนักเรียนที่ไม่สนใจวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เพราะการจะพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าได้นั้น คนในชาติต้องคิดเป็นวิทยาศาสตร์ คือมีความเป็นเหตุเป็นผล ไม่งมงายไร้สาระ สาเหตุหลักที่นักเรียนไม่สนใจวิทยาศาสตร์ เพราะมีเจตคติที่ไม่ดีต่อวิชานี้ ครูต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนโดย
- ฝึกให้นักเรียนทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ให้มีการลงมือปฏิบัติและมีการทดลอง
- เพิ่มแหล่งค้นคว้าให้ทันสมัย ตลอดจนใช้อุปกรณ์การสอนให้เหมาะกับเนื้อเรื่องที่สอน
- ฝึกให้นักเรียนใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์และมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา
- จัดค่ายวิทยาศาสตร์ ทัศนศึกษาพิพิทธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ รวมถึงการให้รางวัลเด็กเรียนดี สนับสนุนส่งเสริมนักเรียนที่มีความสามารถทางวิทยาศาสตร์ได้แข่งขันหรือแสดงออกในสังคมมากขึ้น
- สร้างบรรยากาศการเรียนการสอนและชี้ให้นักเรียนเห็นความสำคัญของประโยชน์ของวิทยาศาสตร์ที่มีต่อมนุษย์
นอกจากนี้สาเหตุที่นักเรียนไม่ชอบวิทยาศาสตร์ อาจเป็นเพราะไม่ชอบครูที่สอนวิชาวิทยาศาสตร์ ครูต้องปรับบุคลิกของตนเองใหม่เป็นคนหัวก้าวหน้า สีหน้าแจ่มใส ไม่ตีหน้ายักษ์ พูดจาสุภาพ จำชื่อนักเรียนได้ ไม่ยึดติดกรอบ หัดคิดและสอนให้ นักเรียนแหกคอกทางความคิดให้ได้ รวมไปถึงการทำให้นักเรียนรักและเป็นที่พึ่งของนักเรียนได้ เพราะเมื่อเขารักเรา เขาก็จะชอบในสิ่งที่เป็นเราและชอบวิชาที่เราสอนด้วย หรือการไม่ชอบเรียนวิทยาศาสตร์เพราะอาจมีปัญหาทางบ้าน ซึ่งจำเป็นที่ครูต้องเอาใจใส่และดูแลอย่างใกล้ชิด ช่วยให้นักเรียนค้นพบศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง
[คำถาม 3] จำเป็นหรือไม่ที่ครูสอนวิทยาศาสตร์ จะต้องเก่งระดับเยี่ยม จึงจะสอนวิทยาศาสตร์ให้ได้ผลดี
ความคิดเห็น :: การสอนวิทยาศาสตร์ให้ได้ผลดีนั้น จำเป็นต้องอาศัยทั้งศาสตร์คือความรู้ที่ดีเยี่ยมและศิลป์ คือมีศิลปะในการสอน การนำเสนอ จึงต้องผสมผสานทั้งสองส่วนเข้าด้วยกัน แต่ก็ไม่จำเป็นที่ครูสอนวิทยาศาสตร์ต้องเก่งระดับเยี่ยม จึงจะสอนวิทยาศาสตร์ให้สนุกและได้ผลดี เพราะครูที่มีแต่ความรู้ที่ดีเลิศ เข้าใจในเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง แต่พูดหรือสื่อความคิดให้นักเรียนเข้าใจไม่ได้หรือได้ยากก็มี บ้างก็หลงตัวเองว่ามีความรู้สูงส่ง คนอื่นโง่ หากคิดเช่นนี้ก็สอนให้ดีไม่ได้
ครูที่สอนวิทยาศาสตร์ให้ได้ผลดีไม่จำเป็นต้องเก่งระดับเยี่ยม หากแต่มีความเข้าใจในเนื้อหา มีเทคนิคในการถ่ายทอดที่ดี ทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย มีจิตวิทยาสนองความต้องการของผู้เรียนได้ การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ก็จะได้ผลดีมากกว่าที่เกิดจากการสอนของครูเก่งอย่างเดียว แต่การเป็นครูวิทยาศาสตร์ที่เก่งระดับยอดเยี่ยม และมีเทคนิคลีลาการนำเสนอที่แพรวพราวก็จะช่วยสนับสนุนให้สามารถจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ให้ได้ผลดีที่สุด และจะกลายเป็นแบบอย่างที่ดี เป็น “ครูในดวงใจ” ของนักเรียนได้ ซึ่งนักศึกษาในโครงการ สควค.ทุกคน ควรจะเป็นเช่นนั้น เพราะมันจะเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนรักที่จะเรียนวิทยาศาสตร์ สนใจวิทยาศาสตร์ และสังคมการเรียนรู้แบบวิทยาศาสตร์ก็จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้จริง
เนื้อหานี้ เขียนโดย นายศักดิ์อนันต์ อนันตสุข นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาวิชาชีพครู อันเป็นส่วนหนึ่งของการเรียน ป.บัณฑิต วิชาชีพครู วิชา 214 530 วิชาหลักสูตรและการสอนฟิสิกส์