ชนชาติที่สร้างปราสาทหิน หนึ่งเดียวในอุษาคเนย์ คือ ชาวขอมโบราณ ดังนั้น ถ้ามีปราสาทหินสร้างอยู่ที่ไหน แสดงว่า ขอมโบราณแผ่อิทธิพลมาถึงดินแดนแถบนั้น โดยเฉพาะถ้าถึงขนาดกับสร้างเป็นเมืองด้วยแล้ว แสดงว่า เมืองนั้นเป็นศูนย์กลางของการปกครองของขอมในดินแดนแถบนั้นเลยทีเดียว การพบปราสาทเมืองสิงห์ ที่กาญจนบุรี ดินแดนฝั่งตะวันตกของประเทศไทย จึงเป็นหลักฐานหนึ่งที่สำคัญที่แสดงให้เห็นว่า ในสมัยที่ขอมเรืองอำนาจนั้น แสนยานุภาพของชาตินี้ ยิ่งใหญ่และกว้างขวางจากนครวัด นครธม (ราชอาณาจักรกัมพูชาปัจจุบัน) อย่างยิ่ง ทันทีที่ผมเห็นปราสาทแห่งนี้ ผม อึ้งและทึ่ง กับชนชาตินี้ (ของยุคนั้น) จริงๆ
องค์ปราสาทหลัก (ปราสาทเมืองสิงห์)
เป็นโบราณสถานที่มีความสมบูรณ์ที่สุดในเขตอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางของผังเมือง มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ก่อสร้างด้วยศิลาแลง ประดับด้วยลวดลายปูนปั้น มีร่องรอยของกำแพงแก้วล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน มีชานชาลาศิลาแลงรูปกากบาท ก่อนเดินขึ้นบันไดสู่ผ่านเข้าซุ้มประตูขนาดใหญ่ ที่เรียกวัน “โคปุระ” ซุ้มประตูมีอยู่ทั้ง 4 ทิศ เชื่อมต่อกันด้วยทางเชื่อมที่ก่อเป็นผนังสองด้าน มีหลังคาทำจากศิลาแลงคลุมโดยรอบ เรียกว่า “ระเบียงคด”
พิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปวัตถุปราสาทเมืองสิงห์
เป็นอาคารสำหรับเก็บ และจัดแสดงวัตถุต่างๆ ที่ได้จากการขุดแต่งโบราณสถาน เพื่อให้ได้ศึกษา เรียนรู้ เช่นภาชนะดิน เครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องประดับที่ทำด้วยหินและแก้ว รวมทั้งโครงกระดูก ที่ขุดค้นได้ทางโบราณคดี ที่มีอายุกว่า 2,000 ปี
การเดินทางไปปราสาทเมืองสิงห์: เส้นทางเมืองกาญจนบุรี – ปราสาทเมืองสิงห์ ระยะทาง 45 กิโลเมตร : จากตัวเมืองกาญจนบุรี วิ่งบนถนนแสงชูโตถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 323 (อำเภอไทรโยค-ทองผาภูมิ) ประมาณ 25 กิโลเมตร สังเกตป้ายบอกทางไปอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ เลี้ยวตามป้ายบอกทางเข้าถนนหมายเลข 3455 เมื่อสุดทางเจออีกสามแยก จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 50 เมตร จะเห็นทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์อยู่ทางขวา ท่านที่ชื่นชอบปราสาท หรือผังเมืองโบราณ หากมีโอกาสมากาญจนบุรี รับรองว่า ท่านจะจุใจกับปราสาทเมืองสิงห์ แน่นอนครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 – 16.30 น.
ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร 034-528-456-7