22-24 เมษายน 2557 : ผมต้องเดินทางไปวิทยาลัยครูปากเซ เพื่อเป็นวิทยากรบรรยายให้อาจารย์และนักศึกษาจากวิทยาลัยครูปากเซ เข้าฟังรวม 100 คน เรื่องที่บรรยายและจัดกิจกรรม คือ “การจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสังคม (STS)” อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและวิจัยทางวิทยาศาสตร์ศึกษา เพื่อชุมชนลุ่มน้ำโขง ของนักศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ประเด็นที่อยากถ่ายทอดผ่านบล็อก คือ การเดินทางไปปากเซ รอบนี้ ผมเดินทางโดยรถประจำทาง ซึ่งพบว่ามีความสะดวก รวดเร็ว (พอๆกับขับรถจากรัตนบุรีเข้าปากเซ) และประหยัดมาก จึงอยากแบ่งปันประสบการณ์เพื่อเป็นแนวทางสำหรับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สนใจ วัยรุ่นหนุ่มสาวชาวอำเภอรัตนบุรี หรือใกล้เคียง ที่สนใจไปเที่ยวปากเซด้วยวิธีนี้ได้ลองดูกันครับ
การเดินทางจากรัตนบุรี ไปอุบลราชธานี
ผมเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางของบริษัท รุ่งประเสริฐทัวร์ เที่ยว กรุงเทพ-รัตนบุรี-อุบล โดยไปรอขึ้นรถที่วิ่งมาจาก กทม. จะมาถึงรัตนบุรีรอบตีสี่ (รถจะมาถึงรัตนบุรีระหว่าง 04.00-04.30 น.) ที่บริเวณจุดจอดของบริษัท รุ่งประเสริฐทัวร์ ที่หน้าร้านเซเว่น อำเภอรัตนบุรี รถเดินทางไปถึงอุบลราชธานีตอน 06.30 น. (เดินทางราว 2 ชั่วโมง) ค่าโดยสาร 110 บาท ทั้งนี้ ถ้าไม่สะดวกเดินทางตอนตีสี่ ก็สามารถใช้บริการรถตู้ปรับอากาศสาย รัตนบุรี-ศรีสะเกษ รอบแรก 06.00 น. ได้ ค่าโดยสาร 50 บาท เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง จากนั้นต่อบริการรถตู้ปรับอากาศสายศรีสะเกษ-อุบลราชธานี ค่าโดยสาร 50 บาท เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง (เลือกแบบไหน เวลาและค่าใช้จ่าย ก็สูสีกัน ชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้นครับ)
การเดินทางจากอุบลราชธานี ไปด่านช่องเม็ก อำเภอสิรินธร
ผมเดินทางด้วยรถตู้ปรับอากาศสายอุบลราชธานี-ช่องเม็ก รถตู้สายนี้มีให้บริการทุกๆ 30 นาที ค่าบริการ 100 บาท เวลาเดินทางราว 1.30 ชั่วโมง เมื่อถึงสถานีรับส่งผู้โดยสารช่องเม็ก ท่านที่มีหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต : passport) ก็สามารถเดินเข้าไปทำพิธีการผ่านด่านที่ด่านศุลกากรได้เลย แต่ท่านที่ไม่มีก็ต้องไปทำหนังสือผ่านแดน (ชั่วคราว) ณ จุดทำหนังสือผ่านแดน ซึ่งเปิดให้บริการตามเวลาราชการ (ไม่หยุดวันเสาร์-อาทิตย์) แล้วจึงทำพิธีการผ่านด่านที่ด่านช่องเม็กฝั่งไทย จากนั้นลอดอุโมงค์เข้าฝั่งลาวทำพิธีการผ่านด่านที่ด่านวังเต่า ฝั่งลาว
การเดินทางจากด่านวังเต่า ไปเมืองปากเซ
ท่านสามารถเดินทางโดยรถตู้ปรับอากาศที่มีให้บริการอยู่ทางฝั่งลาว (อาจสอบถามเจ้าหน้าที่ หรือไม่ก็จะมีเจ้าของรถตู้เดินหาลูกค้า บริเวณที่เราทำพิธีการผ่านแดนที่ด่านวังเต่า) ค่าบริการ 80-100 บาท เดินทางราว 1 ชั่วโมง
ทั้งนี้เมื่อจะเดินทางกลับปากเซ-รัตนบุรี ก็สามารถใช้วิธีการเดียวกัน โดยจะมีรถตู้ปรับอากาศจากปากเซ วิ่งออกมาที่ด่านวังเต่าประมาณทุกๆ 30 นาที สถานที่ขึ้นรถดังกล่าว (ดังภาพ) ยังไม่เป็นกิจลักษณะมากนัก แต่จอดอยู่ที่วงเวียนก่อนถึงสะพานข้ามโขงของเมืองปากเซ (ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำโขงฝั่งเมืองปากเซ ราว 100 เมตร)
นอกจากวิธีที่กล่าวมาแล้ว ยังมีรถโดยสารประจำทางวิ่งจาก อุบลราชธานี-ปากเซ (ปากเซ-อุบลราชธานี) แต่รถที่วิ่งเข้าออกมีคิวช่วงเช้าและช่วงบ่าย ไม่เหมือนวิธีที่กล่าวมา ที่มีให้บริการช่วงกลางวันตลอดวัน สถานที่ขึ้นรถสายปากเซ-อุบลราชธานี ผู้เขียนไม่แน่ใจเรื่องตำแหน่ง แต่ทราบว่าห่างจากวงเวียนราว 1 กิโลเมตร
และหากมีโอกาสมาเที่ยวที่ปากเซ ผมขอแนะนำที่พักเมืองปากเซราคาประหยัด และเครื่องใช้ไม้สอย บรรยากาศใช้ได้ และผมก็ใช้บริการบ่อยๆ คือ เรือนพักอุดมสมหวัง ราคาอยู่ที่ราว 500 และ 600 บาท ต่อคืน เรือนพักจะอยู่ห่างจากวงเวียนราว 800 เมตร (แต่ถ้าเป็นโรงแรมอุดมสมหวัง ค่าที่พักก็จะสูงขึ้นอีกนิด) หรือถ้าต้องการแบบหรูหรามีระดับ ก็สามารถเข้าพักที่ “โรงแรมจำปาสักแกรนด์” หรือ “จำปาสักแกรนด์ โฮเทล” (รอบนี้ผมเข้าพักที่โรงแรมนี้) หรือเอาแบบมีระดับมากขึ้นไปอีกก็ “จำปาสักพาเลซ” หรือมีชื่อเรียกกันอีกชื่อว่า “ศาลาพันห้อง” ซึ่งเคยเป็นวังที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครจำปาสัก ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองใน สปป.ลาว
จะเห็นได้ว่า การเดินทางจากรัตนบุรีไปปากเซ เป็นเรื่องสะดวก ง่ายดาย และประหยัดอย่างมาก จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักท่องเที่ยวจากโซนรัตนบุรี-ศรีสะเกษ ที่ชอบการตะลุยเดี่ยว หรือชอบการนั่งรถผจญภัย จะได้ลองไปสัมผัสเสน่ห์ของลาวใต้ ที่เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สักครั้ง โดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ด้วยแล้ว จึงเป็นเรื่องที่พลาดไม่ได้ ผมสนับสนุนให้เราเข้าใจเพื่อนบ้านมิตรประเทศ ด้วยการเดินทางไปในประเทศของเขาเหล่านั้นครับ อย่างน้อยโซนภาคอีสานของเราก็เริ่มต้นที่ สปป.ลาว นี่ล่ะครับ … สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น ไปเห็นด้วยตาสักครั้งและลองไปเที่ยวด้วยวิธีที่กล่าวมานี้ดูสักครั้งนะครับ
