วิธีทำ บั๊งโผล๊ะ จะมีส่วนประกอบที่สำคัญ 2 ส่วน คือ ส่วนลำกล้องและส่วนด้าม ซึ่งจะใช้ไม้ไผ่ลำเล็กมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-2 เซนติเมตร ไม่นิยมลำไม้ไผ่ใหญ่กว่านี้ เพราะจะทำให้เสียงของบั๊งโผล๊ะไม่ดังเท่าที่ควร ไม้ไผ่ที่ชาวบ้านใช้ทำบั๊งโผล๊ะมักจะเป็นไม่ไผ่คายลำเล็กๆ ที่ขึ้นอยู่ตามภูเขา ไม้ไผ่รวก หรือไม้ไผ่เลี้ยงผู้ทำจะตัดไม้ไผ่ยาว 1 ปล้อง ยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร ตัดข้อปล้องส่วนหนึ่งออกไป ส่วนข้อปล้องอีกด้านหนึ่งจะเหลือไว้ไม่ตัดออก จากนั้นแบ่งไม้ไผ่เป็น 2 ส่วน
1. ส่วนลำกล้อง ใช้ลำไม้ไผ่ส่วนที่ตัดข้อปล้องออก แล้ววัดระยะจากส่วนปลายที่ตัดข้อปล้องนั้นไปให้เกือบถึงข้อปล้องอีกด้านหนึ่ง ใช้มีดตัดลำไม้ไผ่ออกจากกัน เหลาหรือสิน ซึ่งชาวบ้านจะใช้มีดคมลบรอยขรุขระปลายลำกล้องทั้งสองข้างให้ราบเรียบเสมอกัน
2. ส่วนด้าม ใช้ไม้ไผ่ที่เป็นปล้องที่เหลือ จะมีความยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ส่วนจะทำเป็นด้ามเหลาหรือสินไม้ไผ่ให้เรียบร้อย นำไม้ไผ่ปล้องอื่นๆมีความสั้นกว่าลำกล้องเล็กน้อย ใช้มีดผ่าและเหลาให้กลมๆเหมือนไม้เรียวมีขนาดใหญ่กว่ารูไม้ไผ่เพียงเล็กน้อย นำแกนไม้ไผ่ที่เหลาดังกล่าวนี้ใส่รูส่วนที่เป็นด้าม หากแกนและรูยังหลวมไม่แน่น จะใช้ไม้ไผ่แซมเสียบให้แน่น
วิธีเล่น การเล่นจะใช้ลูกกระสุน โดยสมัยก่อนจะใช้ลูกกระเจา ลูกคัดค้าว ลูกขี้เถ้า ที่มีขนาดใหญ่กว่ารูไม้ไผ่ อัดใส่รูกระบอกไม้ไผ่นั้น บางทีผู้เล่นจะใช้ส่วนด้ามบั๊งโผล๊ะตีลูกกระสุนยัดใส่รูแล้วใช้แกนดันไปให้สุดปลาย ส่วนนี้ชาวบ้าน เรียกว่า ดาก เพื่อกันลมไม่ให้ออกไปเมื่อเวลาจะใช้บั๊งโผล๊ะยิงทำให้เกิดเสียงดังนั้น จะใช้ลูกกระสุนอีกลูกหนึ่งยัดไปที่รูปากกระบอก ลูกกระสุนยังจะต้องใหญ่กว่ารู ใช้แกนไม้ส่วนด้ามดันหรือกระแทกลูกกระสุนไปที่ปลายกระบอกบั๊งโผล๊ะอย่างแรงและรวดเร็วแรงอัดของอากาศจะระเบิดทำให้เกิดเสียงดัง ลูกปืนส่วนที่เรียกว่า ดาก จะพุ่งออกไปทางลำกล้อง เพราะแรงอัดของอากาศหากลูกกระสุนถูกตัวคนจะเกิดอาการเจ็บปวดได้ ระยะต่อมากระสุนบั๊งโผล๊ะจะใช้กระดาษแช่น้ำ ปั้นเป็นลูกกลมๆอัดใส่รูให้แน่นยิงเสียงดังได้เหมือนกันเวลาถูกตัวในระยะที่ยิงใส่กัน จะไม่ค่อยเจ็บเหมือถูกลูกกระสุนอื่น
การเล่นบั๊งโผล๊ะ เด็กๆ มักจะเล่นเพื่อความสนุกสนานแบ่งข้างยิงกัน แสดงเป็นฝ่ายพระเอกฝ่ายผู้ร้ายและฝ่ายตำรวจจะเล่นกันตามใต้ถุนบ้านกลางสนามหรือกองฟาง เป็นต้นนอกจากนี้ยังใช้ บั๊งโผล๊ะยิงพวกจิ้งจกหรือแมลงต่างๆ เพื่อแข่งขันความแม่นยำอีกด้วย ปัจจุบันมีผู้นำเอาวิธีการทำบั๊งโผล๊ะไปประยุกต์ทำเป็นปืนอัดลม โดยทำรูปร่างเหมือนปืนใช้แรงอัดลมให้ระเบิด ส่วนลูกปืนจะใช้ไม้โสนหรือจุกขวดต่างๆที่ทำด้วยไม้
หมายเหตุ :: ข้อมูลนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้ตามโครงการ “ผลิตสื่อสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ : ของเล่นพื้นบ้าน สื่อสร้างความสนใจวิทยาศาสตร์” ของชมรมคุรุวิจัย ไทยสุรินทร์ โดยทุนสนับสนุนประจำปี พ.ศ. 2555 จากสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา (http://news.ksp.or.th/TPDN/index.php)