ประกันชีวิตคืออะไร
ประกันชีวิต คือ การทดแทนการสูญเสียรายได้เนื่องจากการเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ และเจ็บป่วยเป็นเวลานาน
คนเรามีภัย 4 ประเภทติดตามตัวเรา ตลอดเวลา ได้แก่
1. ภัยอายุสั้น ตายก่อนวัยอันควร ทิ้งภาระไว้ให้คนข้างหลังลำบาก ทิ้งภาระผ่อนบ้าน ผ่อนรถ อนาคตการศึกษาลูก บิลค่าใช้จ่ายต่าง
2. ภัยอายุยืนยาว อายุยืนยาวเกินไป ไม่มีเงินเก็บ เป็นภาระลูกหลาน เกษียณทุกข์ ยากจน
3. ภัยการเจ็บป่วยเรื้อรังร้ายแรง ค่ารักษาที่แสนแพง ทำลายเงินเก็บที่สะสมจากการทำงาน มาให้หมอ คนในบ้านป่วยหนึ่งคนเหมือนป่วยทุกคนในบ้าน
4. ภัยจากการทุพพลภาพ ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ทำงานไม่ได้ ขาดรายได้ เป็นภาระให้คนดูแล
แต่ภัย 4 ประการนี้ เราสามารถเลือกสองแนวทาง (1) กระจายความเสี่ยงให้กับ “ไทยประกันชีวิต” ด้วยการแบ่งเงินมาออม เพื่อให้ “ไทยประกันชีวิต” เป็นผู้ดูแล หรือ (2) ท่านแบกรับความเสี่ยงไว้เอง ด้วยการเก็บเงินสดไว้ทั้งหมด เมื่อเกิดภัยขึ้น ตัวเราและคนในครอบครัว เป็นผู้จ่ายทั้งหมด
ข้อความสะกิดใจให้ต้องทำประกันชีวิต เหตุผลที่ต้องทำประกันชีวิต หรือ ข้อความที่ใช้พูดคุยกับผู้มุ่งหวัง
[1] ในทางพระพุทธศาสนา คนเราจากไปแล้ว เอาอะไร ติดตัวไปไม่ได้ แต่ในทางเศรษฐศาสตร์ เขาได้ “เอารายได้ล่วงหน้าของเขา” ติดตามไปด้วย … จะดีกว่าไหม ถ้าคนที่จากไป ได้ “ถอดค่าตัวของเขา” เก็บไว้ โดย ไม่ว่าเขาจะอยู่หรือไม่ ครอบครัวจะอยู่ดีเหมือนเดิม
[2] เรามี “เครื่องดับเพลิง” ติดบ้านไว้ ก็เพื่อความสบายใจ ไม่ได้หวังว่าจะใช้ เช่นเดียวกับ “กรมธรรม์ประกันชีวิต “ เรามีไว้เพื่อเป็นสิริมงคล ไม่ได้หวังว่าจะใช้ เช่นกัน … แต่ถ้า ไฟไหม้ขึ้นมา “เครื่องดับเพลิง” ก็ต้องใช้ และถ้าเกิดเหตุบางอย่างขึ้นมา ถ้าไม่มี “กรมธรรม์ประกันชีวิต” เลย ก็น่าเสียดาย นะ
[3] ค่าใช้จ่ายต่างๆ เราสามารถประหยัด และต่อรองได้ แต่ “ใบเสร็จค่ารักษา” จากโรงพยาบาล เราไม่สามารถประหยัดและต่อรองได้เลย … คนบางคนเก็บเงินมาตลอดชีวิต อาจหมดลงกับการรักษาเพียงครั้งเดียวได้ … จะดีกว่าไหม ถ้ามี “ใครสักคน” มารองรับความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายส่วนนั้นไว้ เขาคนนั้นก็คือ การประกันชีวิต
[4] คนในวัยหนุ่มสาว ที่ไม่รู้จักการ “เก็บเงิน” ก็เหมือนเป็นการปล้นตัวเอง ส่วนมากมีแต่คนชวน “ใช้เงิน” ไม่มีใครชวนเราเก็บเงิน ถ้าวันนี้ มี “ใครสักคน” มาชวนน้องเก็บเงิน เพื่อออมเงินให้น้องและครอบครัว น้องว่าดีไหม ครับ … ใครคนนั้นคือ พี่ “ไทยประกันชีวิต”
[5] อายุ 60 ปี เราก็ “เกษียณจากงาน” แต่ “ไม่เกษียณจากรายจ่าย” เพราะชีวิตต้องเดินต่อไป และไม่เป็นภาระของลูกหลาน ดังนั้น การมีกระแสเงินสดใช้ทุกเดือนตอนเกษียณจากงาน จึงเป็นเรื่องจำเป็น
[6] เจ็บป่วยครั้งเดียวอาจทำให้เงินเก็บของครอบครัวที่มีหรือสะสมมาทั้งหมด หมดไปได้ ให้ประกันฯ จ่ายแทนดีกว่าไหมครับ ออมหลักร้อยและช่วยจ่ายค่ารักษาหลักล้าน เงินก้อนเล็ก ช่วย save เงินก้อนใหญ่ของครอบครัวได้นะ
[7] ท่านคือ “คนสำคัญ” ของครอบครัว หากเจ็บป่วยนานๆ หรือ “ต้องจากไป” รายได้ครอบครัวก็หายไปตลอดกาล เช่นกัน อยากให้ “ใครสักคน” รับผิดชอบจ่ายค่าความเสียหายนี้ เพื่อคนข้างหลังยังใช้ชีวิตได้อย่างไม่ลำบากไหม ใครคนนั้นก็คือคือ #ไทยประกันชีวิต
[8] ประกันชีวิต สำคัญและจำเป็นไหม? ขอตอบว่า “ประกันชีวิตไม่สำคัญ ตอนที่ยังไม่ได้ใช้” แต่ “ตอนจะใช้” แล้วไม่มี จะรู้ว่าประกันชีวิต มันสำคัญมาก ทำก่อน ในตอนนี้ ดีกว่า รู้งี้ ทำตั้งนานแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อ แต่ยินดีให้คำปรึกษา
รวบรวมโดย นายศักดิ์อนันต์ อนันตสุข (ตัวแทนไทยประกันชีวิต หมายเลข 65433261)
