การฝึกงานของนักศึกษา เป็นโอกาสอันดีที่นักศึกษาจะได้เรียนรู้วิธีการทำงานในองค์กร ที่เป็นมืออาชีพ ซึ่งมีความแตกต่างจากชีวิตการเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยอย่างมาก แต่การที่นักศึกษาจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการฝึกงานได้มากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่ กับการปฏิบัติตัวของแต่ละคน หากน้องๆ เป็นคนหนึ่งที่กำลังจะฝึกงานในช่วงปิดเทอมนี้ (ปกติ การฝึกงานสำหรับนักศึกษา จะจัดขึ้นในช่วงสิ้นปีที่ 2 หรือปีที่ 3 ทั้งในองค์กรภาครัฐและเอกชน ซึ่งแตกต่างจากนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ที่ต้องฝึกงานหรือฝึกสอนในช่วงเปิดภาคเรียน)
ผมเองตอนเรียนที่ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ช่วงปิดภาคฤดูร้อนปีที่ 3 ก็มีโอกาสไปฝึกงาน (ดังภาพ) เป็นเวลา 35 วัน ที่กรมอุตุนิยมวิทยา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร กับเพื่อนในภาควิชาเดียวกันอีก 2 ท่าน และเพื่อนต่างภาควิชาอีก 2 ท่าน (เพื่อนในภาควิชาคนอื่นๆ ก็ไปฝึกงานในหน่วยงานอื่นๆ เช่นเดียวกัน)ในการฝึกงานให้ประสบความสำเร็จและมีความสุขในการฝึกงานและการทำงานนั้น มีข้อแนะนำ 12 ข้อ เพื่อเตรียมตัวก่อนฝึกงาน และใช้ชีวิตขณะฝึกงานอย่างมีความสุข ดังนี้
1. กำหนดเป้าหมายของตนเอง : ก่อนจะเริ่มฝึกงาน น้องๆควรกำหนดเป้าหมายของตนเองให้ชัดเจนเสียก่อนว่าน้องต้องการอะไร โดยต้องแน่ใจว่าเป้าหมายของน้องมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้สำเร็จได้จริงๆ
2. เข้าพบหัวหน้างานเป็นประจำ : หาโอกาสเข้าพบหัวหน้างาน หรือพี่เลี้ยงเป็นประจำ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และบทเรียนต่างๆทั้งดีและไม่ดี รวมทั้งรายงานความคืบหน้าของงานที่ทำให้หัวหน้างานหรือพี่เลี้ยงทราบด้วย และในระหว่างที่น้องพูดคุยกับหัวหน้างานหรือพี่เลี้ยงฝึกงานของตนเองนั้น น้องควรเป็นผู้ฟังที่ดี และเก็บเกี่ยวความรู้ให้ได้มากที่สุด
3. ทำงานด้วยความกระตือรือร้น และมีทัศนคติเชิงบวก :ไม่สำคัญว่าน้องจะได้รับมอบหมายให้ชงกาแฟ หรือถ่ายเอกสาร แต่น้องต้องทำทุกงานที่ได้รับมอบหมายด้วยความกระตือรือร้นและเป็นมืออาชีพ และอาจขอทำงานเกินระยะเวลาการฝึกงานที่กำหนดไว้ เพื่อแสดงให้หัวหน้างานหรือพี่เลี้ยงฝึกงานเห็นถึงความมุ่งมั่นในการทำงานของน้อง
4. หลีกเลี่ยงทุกอย่างในทางลบ : หากน้องไม่ต้องการทำลายการฝึกงานของตนเอง ควรหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆก็ตามที่มีผลในทางลบ เช่น พูดคำหยาบ ไม่เคารพเพื่อนร่วมงาน มาสายแต่กลับก่อน ใจแคบ ไม่ตรงต่อเวลาเย่อหยิ่ง แต่งกายผิดระเบียบ พูดเรื่องศาสนาและการเมืองที่ขัดแย้งกัน เป็นต้น
5. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือองค์กรที่ฝึกงานให้มากขึ้น : หาโอกาสเข้าร่วมทุกๆ กิจกรรมของบริษัท/องค์กร เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างสัมพันธภาพกับผู้คนได้ด้วย
6. เปิดรับสิ่งต่างๆ ให้ได้มากที่สุด : เปิดรับความคิดเห็นใหม่ๆ หรือพบปะพูดคุยกับคนในแผนกอื่นๆ มากขึ้นรวมถึงเพื่อนนักศึกษาจากสถาบันอื่นๆ ที่มาฝึกงานด้วย เราอาจจะได้อะไรดีๆ จากเพื่อนนักศึกษาจากต่างสถาบัน เป็นเพื่อนกันและอาจได้ทำงานด้วยกันต่อไปในอนาคต
7. อย่ากลัวการถามคำถาม : การที่น้องเป็นนักศึกษาฝึกงาน ย่อมไม่ได้ถูกคาดหวังว่าต้องรู้ทุกเรื่องอยู่แล้ว ดังนั้น อย่ากลัวที่จะถามคำถามเมื่อน้องต้องพบกับงานที่ไม่คุ้นเคย และหากมีข้อห้ามไม่ให้เราทำอะไร ก็ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรที่เราฝึกงานได้
8. คิดนอกกรอบ : นายจ้างหรือหัวหน้างานชอบคนที่หาทางแก้ปัญหาด้วยการ “คิดนอกกรอบ” น้องอาจเสนอความคิดใหม่ๆ ต่อหัวหน้างาน เพื่อที่จะประสบความสำเร็จร่วมกันได้ แต่ระวังไว้เสมอว่าอย่าทำสิ่งใดๆ ล้ำเส้นหัวหน้างานเด็ดขาด
9. หาที่ปรึกษา(พิเศษ)สักคน : ที่ปรึกษาที่น้องจะมองหา ควรเป็นผู้ที่มีตำแหน่งที่สูงกว่า ที่จะสามารถให้คำแนะนำต่างๆ ที่น้องต้องการทราบได้ และยังเป็นเกราะกำบังจากความขัดแย้งต่างๆ ภายในบริษัทหรือองค์กรได้ด้วย หัวหน้างานหรือพี่เลี้ยงฝึกงานของน้องสามารถเป็นที่ปรึกษาได้ แต่ก็ควรมองหาคนอื่นไว้ด้วย
10. ผูกมิตร ตีสนิท : ผูกมิตรและสร้างความสนิทสนมกับหัวหน้างาน และผู้จัดการแผนกอื่นๆ ให้มากๆ น้องจะสามารถใช้ประโยชน์จากความสนิทสนมนี้ได้สำหรับการฝึกงานครั้งต่อไป หรือพวกเขาอาจให้คำแนะนำในการหางานแก่น้องได้จากประสบการณ์การทำงานของพวกเขา
11. สร้างความสำเร็จให้เป็นรูปธรรม : เมื่อการฝึกงานเสร็จสิ้นลง น้องควรนำรายละเอียดการฝึกงานไปใส่ไว้ในแฟ้มสะสมงาน (portfolio) ด้วย เพื่อป้องกันการลืมว่าน้องได้ทำอะไรบ้างในระหว่างการฝึกงาน การจดบันทึกประจำวันหรือเขียนไดอะรี่ (diary) จะช่วยเตือนความจำได้ดีทีเดียว
12. สนุกกับชีวิต : การฝึกงานเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดครั้ง หนึ่งในชีวิต ดังนั้น ควรสนุกกับการทำงานและการได้เรียนรู้ แต่ระวังอย่าสนุกจนมากเกินไปและอย่าให้มีเรื่องรักใคร่เกิดขึ้นในองค์กรที่คุณไปฝึกงานเสียล่ะ (เตือนไว้ก่อน แต่ก็เห็นหลายคู่แล้วล่ะ)
ขอให้มีความสุขกับการฝึกงานซัมเมอร์นี้นะครับ
ประสบการณ์และเรียบเรียงจาก : http://th.jobsdb.com/th/EN/Resources/JobSeekerArticle/training-tips?ID=8494