พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมาย ของคำว่า “เด็ก” ไว้ว่า “เด็ก” หมายถึง คนที่มีอายุยังน้อย ยังเล็ก และ “เด็กชาย” คือ คำนำเรียกเด็กผู้ชายที่มีอายุไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ ส่วน “เด็กหญิง” คือ คำนำเรียกเด็กผู้หญิงที่มีอายุไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์
ความเป็นมาของวันเด็กสากล
เมื่อปีพุทธศักราช 2498 ได้เกิดปฏิญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก โดยองค์การสหประชาชาติทำให้ทั่วโลกเกิดความตื่นตัว และเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะให้ความสำคัญแก่เด็ก ๆ ของตนมากขึ้น การขานรับในการนี้จากประเทศต่าง ๆ เป็นไปอย่างกว้างขวาง ในปีเดียวกันนั้นเอง ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกไม่น้อยกว่า 40 ประเทศต่างก็จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติของประเทศตนขึ้นมา โดยกำหนดกันว่าจะถือเอาวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นวันเด็กแห่งชาติ
การจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติในแต่ละประเทศขณะนั้นมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันเป็นส่วนใหญ่ โดยยึดหลักการให้ความสำคัญแก่เด็กเป็นวัตถุประสงค์หลักโดยเปิดสถานที่ราชการที่สำคัญเช่น พิพิธภัณฑ์ รัฐสภา เป็นต้น ให้เด็ก ๆ ได้เข้าชมและศึกษา บางแห่งจัดการแสดงมหรสพ มีการแจกอาหาร แข่งขันเกม แจกของขวัญ ฯลฯ ต่อมางานนี้ได้รับความสำคัญทั่วโลกจึงได้จัดกันแพร่หลายมาถึงปัจจุบัน
การจัดงานวันเด็กในประเทศไทย
ปีพุทธศักราช 2498 ประเทศไทยได้รับข้อเสนอของนาย วี เอ็ม กุลกานี ผู้แทนองค์กรสมาพันธ์เพื่อสวัสดิภาพเด็กระหว่างประเทศ ผ่านมาทางกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทยว่า ประเทศไทยควรจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของเด็กให้มากขึ้น ดังที่นานาประเทศกำลังทำอยู่
คณะกรรมการสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้นำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณา ในที่สุดที่ประชุมได้เห็นชอบ นำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในขณะนั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม พ.ศ.2498 ได้มีมติคณะรัฐมนตรีรับหลักการให้จัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้น โดยมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการ ส่วนของค่าใช้จ่ายในการจัดงานนั้น ได้อนุมัติเงินจากกองสลากกินแบ่งรัฐบาลมาดำเนินการ
ดังนั้น ในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2498 ประเทศไทยจึงมีงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้นเป็นต้นมาทางราชการได้กำหนดวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติสำหรับประเทศไทย และจัดติดต่อกันมาจนถึงปี พ.ศ.2506 ที่ประชุมคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติในปีนั้นมีความเห็นพ้องต้องกันว่าสมควรที่จะเสนอเปลี่ยนวันจัดงานวันเด็กแห่งชาติเสียใหม่เพื่อความเหมาะสมด้วยเหตุผลว่า ในเดือนตุลาคมสำหรับประเทศไทยเราเป็นเดือนที่ยังอยู่ในฤดูฝน มีฝนตกมาก เด็ก ๆ ไม่สะดวกในการมาร่วมงาน ประการต่อไปก็คือ วันจันทร์เป็นวันปฎิบัติงานของผู้ปกครองจึงไม่สามารถพาเด็กของตนไปร่วมงานได้ ตลอดจนการจราจรก็ติดขัด จึงเห็นว่าควรจะเปลี่ยนไปเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมเสียทุกสิ่งทุกอย่างได้สะดวกสบายขึ้น และมีความเหมาะสมมากกว่า
จากข้อเสนอดังกล่าว คณะรัฐมนตรีในขณะนั้นมีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติเสนอมา ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2507 จึงประกาศเปลี่ยนงานฉลองวันเด็กแห่งชาติจากวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคม มาเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นมา ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้ปี พ.ศ. 2507 ไม่มีงานวันเด็กแห่งชาติด้วยการประกาศเปลี่ยนได้เลยวันมาแล้ว งานวันเด็กแห่งชาติได้เริ่มจัดขึ้นมาใหม่อีกครั้งในปี พ.ศ.2508 และจัดเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
วัตถุประสงค์ของการจัดงาน วันเด็กแห่งชาติ
1. เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก สนใจในการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเด็ก และช่วยเหลือสงเคราะห์เด็กเป็นพิเศษ
2. เพื่อให้เด็กและและเยาวชนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
3. เพื่อให้เด็กรู้จักหน้าที่ของตน และอยู่ในระเบียบวินัยอันดี
4. เพื่อเผยแพร่ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิของเด็ก
ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิเด็กและเยาวชน ขององค์การสหประชาชาติ วันเด็กแห่งชาติ
ข้อ 1. : เด็กและเยาวชนพึงได้รับสิทธิเท่าเทียมกันโดยปราศจากการแบ่งแยกหรือกีดกัน ไม่ว่าโดยวิธีใด ๆ ในเรื่อง เชื้อชาติ ผิว เพศ ภาษา ศาสนา ความคิดเห็นทางการเมือง เผ่าพันธุ์แห่งชาติหรือสังคมทรัพย์สิน กำเนิด หรือสถานะอื่น ๆ ไม่ว่าจะของเด็กหรือของครอบครัวก็ตาม
ข้อ 2. : เด็กและเยาวชนพึงได้รับการพิทักษ์คุ้มครองเป็นพิเศษอันจะช่วยให้เด็กสามารถพัฒนาทั้งทางกาย ทางสมอง และจิตใจเพื่อให้ร่วมอยู่ในสังคมได้อย่างปกติชน
ข้อ 3. : เด็กและเยาวชนมีสิทธิที่จะได้มีชื่อ และมีสัญชาติ แต่กำเนิด
ข้อ 4. : เด็กและเยาวชนพึงได้รับความมั่นคงทางสังคม และเติบโตอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นทั้งแม่และเด็กควรได้รับการดูแลและคุ้มครองเป็นพิเศษ ทั้งเมื่ออยู่ในครรภ์ และภายหลังเมื่อคลอดแล้วโดยได้รับสิทธิในเรื่องที่อยู่อาศัย ได้รับอาหาร ได้รับการดูแลทางแพทย์ และโดยเฉพาะเด็ก ๆ ให้ได้รับการเล่นรื่นเริงเพลิดเพลินด้วย
ข้อ 5. : เด็กและเยาวชนที่พิการทั้งทางร่างกาย สมอง และจิตใจ มีสิทธิที่จะได้รับการรักษาพิเศษ หมายถึงการดูแลรักษาและการศึกษาที่เหมาะสมกับสภาวะของเด็กโดยเฉพาะ
ข้อ 6. : เด็กและเยาวชนพึงได้รับความรัก และความเข้าใจอันจะช่วยพัฒนาบุคลิกของตน โดยเติบโตอยู่ในความรับผิดชอบของบิดา มารดาของเด็กเอง และในทุกกรณีเด็กจะต้องอยู่ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นปลอดภัย และไม่พลัดพรากจากพ่อแม่ในกรณีที่เด็กไม่มีครอบคร้ว หรือมาจากครอบครัวที่ยากจน และมีลูกมากก็จะได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษ จากรัฐหรือองค์การต่าง ๆ
ข้อ 7. : เด็กและเยาวชนมีสิทธิที่จะได้รับการศึกษาซึ่งครูควรจะจัดให้เปล่าอย่างน้อยในชั้นประถมศึกษา เพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมโดยทั่ว ๆ ไป และให้เด็กเติบโตเป็นสมาชิกผู้ยังประโยชน์ต่อสังคมคนหนึ่ง การศึกษานี้คลุมไปถึงการแนะแนวทางชีวิต ซึ่งมีบิดามารดาเป็นผู้รับผิดชอบก่อนบุคคลอื่น ๆ เด็กจะต้องมีโอกาสได้รับควาาามสนุกสนานเพลิดเพลิน จากการเล่นและรื่นเริงพร้อมกันไปด้วย
ข้อ 8. : เด็กและเยาวชนจะเป็นบุคคลแรกที่ได้รับการคุ้มครองและสงเคราะห์ในทุกกรณี
ข้อ 9. : เด็กและเยาวชนพึงได้รับการปกป้องให้พ้นจากการถูกทอดทิ้ง จากความโหดร้ายทารุณ และการถูกข่มเหง รังแกทุกชนิด เด็กจะต้องไม่กลายเป็นสินค้า ไม่ว่าในรูปใดจะต้องไม่มีการรับเด็กเข้าทำงานก่อนวัยอันสมควร ไม่มีการกระทำใด ๆ อันจะมีชักจูงหรืออนุญาติเด็กให้จำต้องรับจ้างทำงาน ซึ่งอาาจะเป็นผลร้ายต่อสุขภาพของเด็ก หรือเป็นเหตุให้การพัฒนาทางกายทางสมองและทางจิตใจของเด็กต้องเสื่อมลง
ข้อ 10. : เด็กและเยาวชนพึงได้รับการคุ้มครองให้พ้นจากการกระทำที่แสดงถึงการกีดกัน แบ่งแยกไม่ว่าทางเชื้อชาติ ศาสนาหรือรูปใด ๆ เด็กจะต้องได้รับการเลี้ยงดูให้เติบโตขึ้นมา ” ในภาวะแห่งจิตที่เต็มไปด้วยความเข้าอกเข้าใจ และมีการหย่อนหนักหย่อนเบามิตรภาพระหว่างชนชาติต่าง ๆ สันติภาพ และภาพสากล และด้วยการสำนึกเต็มที่ว่าพละกำลังและความสารถพิเศษในตัวเขา ควรจะอุทิศเพื่อรับใช้เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน”
คำขวัญ วันเด็กแห่งชาติ พ.ศ. 2499-2557
ในปี พ.ศ. 2502 จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เห็นคุณค่าความสำคัญ ของเด็ก จึงมอบคำขวัญให้เป็นข้อคิด สำหรับเด็ก นายกรัฐมนตรี ในสมัยต่อๆมา จึงได้ถือปฎิบัติสืบต่อมาดังต่อไปนี้
- คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2499 โดย จอมพล ป.พิบูลสงคราม
จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2502 โดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์
ขอให้เด็กสมัยปฎิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความก้าวหน้า - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2503 โดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์
ขอให้เด็กสมัยปฎิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2504 โดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์
ขอให้เด็กสมัยปฎิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่อยู่ในระเบียบวินัย - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2505 โดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์
ขอให้เด็กสมัยปฎิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2506 โดย จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์
ขอให้เด็กสมัยปฎิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียร - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2507 – งดจัดงานวันเด็ก –
- คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2508 โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
เด็กจะเจริญต้องรักเรียนและเพียรทำดี - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2509 โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
เด็กที่ดีต้องมีสัมมาคารวะ มานะบากบั่น และสมานสามัคคี - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2510 โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
อนาคตของชาติจะสุกใส หากเด็กไทยแข็งแรง เรียนดี และ มีความประพฤติเรียบร้อย - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2511 โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
ความเจริญและความมั่นคงของไทยในอนาคต ขึ้นอยุ่กับเด็กที่มีวินัย เฉลียวฉลาด และรักชาติยิ่ง - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2512 โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
รู้เรียน รู้เล่น รู้สามัคคี เป็นความดีที่เด็กพึงจำ - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2513 โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
เด็กประพฤติดีและศึกษาดีทำให้มีอนาคตแจ่มใส - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2514 โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
ยามเด็กจงหมั่นเรียน เพียรกระทำดี เติบใหญ่จะได้มีความสุขความเจริญ - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2515 โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
เยาวชนฝึกตนดี มีความสามารถ - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2516 โดย จอมพลถนอม กิตติขจร
เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติเจริญ - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2517 โดย นายสัญญา ธรรมศักดิ์
สามัคคี คือ พลัง
- คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2518 โดย นายสัญญา ธรรมศักดิ์
เด็กคือทายาทของชาติไทย ต้องร่วมใจร่วมพลังสร้างความดี - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2519 โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช
เด็กที่ต้องการเห็นอนาคตของชาติรุ่งเรือง จะต้องทำตัวให้ดี - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2520 โดย นายธานินทร์ กรัยวิเชียร
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็น คุณสมบัติของเยาวชนไทย - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2521 โดย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์
เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติมั่นคง - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2522 โดย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์
เด็กไทยคือหัวใจของชาติ - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2523 โดย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์
อดทน ขยัน ประหยัด เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2524 โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
เด็กไทยมีวินัย ใจซื่อสัตย์ รู้ประหยัด เคร่งครัดคุณธรรม - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2525 โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
ขยัน ศึกษา ใฝ่หาความรู้ เชิดชูชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นคุณสมบัติของเด็กไทย - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2526 โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
รู้หน้าที่ ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด มีวินัย และคุณธรรม - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2527 โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
รักวัฒนธรรมไทย ใฝ่ดี มีความคิด สุจริต ใจมั่น หมั่นศึกษา - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2528 โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
สามัคคี มีวินัย ใฝ่คุณธรรม
- คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2529 โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
นิยมไทย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2530 โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์
นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2531 โดย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2532 โดย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2533 โดย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2534 โดย นายอานันท์ ปันยารชุน
รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม นำชาติพัฒนา - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2535 โดย นายอานันท์ ปันยารชุน
สามัคคี มี วินัย ใฝ่ศึกษา จรรยางาม - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2536 โดย นายชวน หลีกภัย
ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2537 โดย นายชวน หลีกภัย
ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2538 โดย นายชวน หลีกภัย
สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2539 โดย นายบรรหาร ศิลปอาชา
มุ่งหาความรู้ เชิดชูความเป็นไทย หลีกไกลยาเสพติด - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2540 โดย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2541 โดย นายชวน หลีกภัย
ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2542 โดย นายชวน หลีกภัย
ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2543 โดย นายชวน หลีกภัย
มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2544 โดย นายชวน หลีกภัย
มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2545 โดย พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคต ที่สดใส - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2546 โดย พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
เรียนรู้ตลอดชีวิต คิดอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันเทคโนโลยี - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2547 โดย พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
รักชาติ รักพ่อแม่ รักเรียน รักสิ่งดี ๆ อนาคตดีแน่นอน - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2548 พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
เด็กรุ่นใหม่ต้องขยันอ่าน ขยันเรียน กล้าคิด กล้าพูด - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2549 โดย พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ.2550 โดย พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์
มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2551 โดย พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์
สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2552 โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี” - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2553 โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม” - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2554 โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ” - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2555 โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
“สามัคคี มีความรู้คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี” - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2556 โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
“รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน” - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2557 โดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
“กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทยให้มั่นคง” - คำขวัญวันเด็กปี พ.ศ. 2558 โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
“ความรู้คู่คุณธรรม นำสู่อนาคต ”
เรียบเรียงข้อมูลจาก :
1. http://www.tlcthai.com/education/history-of-thailand/4403.html
2. http://th.wikipedia.org/wiki/วันเด็กแห่งชาติ_ประเทศไทย
ภาพประกอบจาก : http://www.nmt.or.th/phatthalung/thamadua/2556/วันเด็ก47.gif