ช่วงนี้ผมกำลังศึกษาเรื่อง การลงทุน จึงพยายามหาความรู้โดยการอ่านหนังสือเกี่ยวกับ การลงทุน และได้โพสต์ข้อความในเพจ ANANTASOOK Center เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2557 เพื่อสรุปความรู้ของตนเองเอาไว้ว่า “การลงทุน คือ การเอาเงินที่เรามีอยู่ไปอยู่ใน
จากนั้นก็มีเพื่อนของเราท่านหนึ่ง ได้มาแสดงความคิดเห็นใน INBOX ซึ่งผมคิดว่ามีประโยชน์ทีเดียว จึงขออนุญาตนำข้อความนั้นมาเผยแพร่แบ่งปันเพื่อนๆ ของเราได้ทราบด้วย (ซึ่งก็ได้รับอนุญาต แต่ไม่ขอเปิดเผยนาม) ความเห็นของเพื่อนเรามีดังนี้
Asset ที่ทำงานและผลิตเงินให้เรา จะว่าไปแล้วก็มี 2 อย่างครับ
1. ตราสารหนี้ รวมถึง เงินฝาก เช่น เงินฝาก พันธบัตร หุ้นกู้ สลากออมทรัพย์ สลาก ธกส. แบบนี้ความเสี่ยงต่ำแต่ผลตอบแทนก็ต่ำ ตามไปด้วย
2. ตราสารทุน หลักๆ ก็จะมี กองทุนรวม และหุ้น แบบนี้ ความเสี่ยงสูง แต่ผลตอบแทนก็สูง (การลงทุนมีความเสี่ยง)
ในที่นี้จะอธิบายให้เห็นภาพชัดว่า หุ้น คือ “Asset ที่ทำงานและผลิตเงินให้เรา”
หุ้น คือตราสาร ซึ่งแสดงความเป็นเจ้าของ (เหมือน โฉนดที่ดิน ถ้าลงทุนในที่ดิน) มันจะมีกิจการ มีผู้บริหาร มีพนักงาน มีสินค้า และบริการ ที่คอยทำงาน หาเงินให้เราอยู่แล้ว เราไม่ต้องเปิดกิจการเอง ซื้อกิจการนั้นๆ โดยการถือหุ้นกิจการนั้นๆ ซะ
ส่วนทองคำ มันจะไปเรื่อยๆ ตามความต้องการของคน และหรือตามแรงเก็งกำไรของพวกกองทุน หรือนักลงทุน
ส่วนที่ดิน ถ้าเราไม่ทำอะไร มันก็แทบไม่ต่างจากทอง เว้นแต่เราจะให้เช่า หรือเพาะปลูก หรือใช้มันเป็นสถานที่ประกอบกิจการ มันถึงจะสร้างเม็ดเงินให้เรา
ถ้าให้เลือก ผมชอบ หุ้นมากที่สุด เพราะมันมีสภาพคล่องสูง ซื้อหรือขาย เปลี่ยนมือได้ง่าย และมันสามารถวิเคราะห์ คาดการณ์ และประเมินทิศทาง มูลค่าของหุ้น ได้ (asset) อีกทั้งผลตอบแทน จะมาใน 2 รูปแบบ คือ กำไรจากราคาขาย ถ้าซื้อถูกขายแพง (และไม่หักภาษี) และในรูปของเงินปันผล ส่วนใหญ่แต่ละบริษัทจะปันผลปีละครั้ง แต่ก็มีบางบริษัท ปันผลทุกๆ 3 เดือน และนอกจากนี้ รายได้จากเงินปันผล มันยังสามารถเอาไปเครดิต ขอคืนภาษี เงินได้บุคคลธรรมดา อีกด้วย
ขอบคุณความเห็นดีๆ จากเพื่อนของเราครับ และหากเพื่อนๆ มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุน โดยเฉพาะใน “หุ้น” และอยากแบ่งปัน อย่าลืมแชร์ความเห็นดีๆ เหล่านั้นด้วยนะครับ (รู้นะ ครูเล่นหุ้น น่ะ มีหลายคน)
ภาพประกอบจาก : http://www.moneynewsnow.com/wp-content/uploads/2014/07/forex-trading-tips.jpg
ครูต้อม ส้มจ้อยยยย … เพื่อนของเราท่านหนึ่ง แสดงความเห็นว่า … “รายได้จากเงินปันผล มันยังสามารถเอาไปเครดิต ขอคืนภาษี เงินได้บุคคลธรรมดา อีกด้วย” ….ขอเพิ่มเติมตรงนี้ครับ…หมายถึงว่า ตอนเขาปันผลให้เราถ้าเราแจ้งให้เขาหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ 10% ถ้าเราเห็นว่าเงินได้ของเราเมื่อรวมกับปันผลแล้ว ไม่ถึงขั้นที่ต้องจ่ายก็สามารถได้เงินคืนภาษีครับ….แต่ถ้าคำนวณดูแล้วว่าจะได้เสียภาษีเขาก็จะไม่เอาไปรวมครับ…ขึ้นกับเราจะรวม หรือ ไม่รวม ตอนยื่นจ่ายภาษีประจำปี ครับ