เมื่อใช้งานรถยนต์ไปสักระยะ อาจจะสักประมาณทุกๆ 50,000 กิโลเมตรขึ้นไป (แต่ก็ไม่ใช่หลักเกณฑ์ตายตัว ให้ดูจากสภาพดอกยางเป็นหลัก) ผู้ขับขี่ต้องคอยสังเกตดอกยางรถยนต์ว่าเสื่อมสภาพแล้วหรือยัง เพราะหากเกิดยางเสื่อมสภาพขึ้นมาก็มีความเสี่ยงที่จะได้รับอุบัติเหตุได้ เช่น หากดอกยางรถยนต์สึกกร่อน จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการเบรค และเสี่ยงต่อการเกิดยางแตกและยางระเบิดได้ ซึ่งหากเกิดขึ้น จะส่งผลเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของเรา ผมเองได้สอบถามเรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนยางรถ ว่าต้องเปลี่ยนเมื่อไหร่ ตรวจสอบยังไง (แบบไม่เป็นวิชาการมากนัก) และได้รับคำแนะนำเบื้องต้นจากช่างมา ก็เลยขอใช้พื้นที่ตรงนี้แบ่งปันเพื่อนๆ ที่มีรถยนต์ครับ รวมถึงเอาไว้เตือนความจำตัวเองด้วย เพราะบางทีก็สงสัยว่า เวลาเปลี่ยนยางใหม่จะเปลี่ยนล้อหน้าหรือล้อหลัง หรือจะสลับล้อไหนไปล้อไหน >>>
ปกติเปลี่ยนยางล้อไหน/ ยางล้อไหนสำคัญ
ยางล้อหน้าสำคัญที่สุด ดังนั้น ถ้าออกรถมาใหม่ ซื้อรถใหม่ การเปลี่ยนยางครั้งแรก ให้เปลี่ยนล้อหน้าก่อน โดยเปลี่ยนออกสองข้าง (สองล้อ) ไปเลย และเมื่อใช้ไปอีกสักระยะล้อหลังน่าจะถึงเวลาเปลี่ยน ก็สามารถนำยางที่เปลี่ยนล้อหน้าครั้งแรก มาเปลี่ยนไปใส่ล้อหลัง แล้วก็ซื้อยางใหม่มาใส่ล้อหน้าอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากปรากฏว่าล้อหลังยังไม่เสื่อมสภาพมากนัก ขณะที่ล้อหน้าเสื่อมหนักมากกว่า ก็เปลี่ยนเฉพาะล้อหน้า ส่วนล้อหลังก็เอาไว้อย่างนั้น เพราะล้อที่สำคัญที่สุดคือล้อหน้า เนื่องจากเป็นล้อที่ต้องรับการเลี้ยว เบรก ต้านแรงเสียดทานอะไรต่างๆ อีกมากมาย ส่วนล้อหลังทำหน้าที่วิ่งตามล้อหน้าเฉยๆ ครับ
ราคายางรถยนต์ เลือกยี่ห้อไหนดี
ข้อนี้ ขึ้นกับยางยี่ห้อแรกที่เคยใช้และเงินในกระเป๋า เพราะราคายางมีหลายราคา ตามคุณภาพ หากยึดติดกับยี่ห้อยางรถ ที่ติดมาครั้งแรกตอนที่ซื้อรถ ก็ใช้อันนั้นต่อไปได้ครับ แต่ถ้าหากเงินมีน้อย ก็มีหลายราคาให้เลือก เช่น ล้อละ สองพันกว่าๆ ล้อละสี่พันกว่าๆ และล้อละห้าพันต้นๆ (ราคายางรถยนต์ขึ้นกับอู่หรือสถานให้บริการด้วยนะครับ ถ้าอยู่ในตัวอำเภอราคามักจะแพงกว่าที่อยู่ในตัวจังหวัด … ดังนั้นท่านที่อยู่ในตัวอำเภอ ถ้าต้องการประหยัดล้อละ 300-500 บาท การไปใช้บริการในตัวจังหวัด หรือมีธุระเข้าตัวจังหวัดพอดี ก็เป็นแนวทางที่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ครับ) ส่วนการเลือกยี่ห้อยางรถ อันนี้ขอให้สอบถามกับอู่รถได้โดยตรงครับ ผมไม่ขอชี้นำว่ายี่ห้อไหนดี หรือไม่ดีอย่างไร
ชมคลิป เปลี่ยนยางรถยนต์
