เมื่อเดินทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่สอง (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) มาถึงที่เมืองสะหวันนะเขต ของ สปป.ลาว นอกจากจะแวะเสี่ยงดวงที่สะหวันนะเวกัส หรือเลยไปด่านลาวบ๋าว ข้ามไปเที่ยวดานัง ประเทศเวียดนามแล้ว อยากขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวได้มาไหว้พระขอพรที่ “พระธาตุอิงฮัง” กันด้วยนะครับ พระธาตุแห่งนี้ อยู่ในเมือง คันทะบุลี แขวงสะหวันนะเขต อยู่ห่างจากเมืองสะหวันนะเขต ไปทางทิศเหนือด้วยระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร
พระธาตุอิงฮังเป็นหนึ่งในพระธาตุเก่าแก่ที่คนลาวนับถือกันมาก ทุกปีชาวลาวจะมีการจัดงานนมัสการพระธาตุอิงฮัง ช่วงเดือนธันวาคม และกล่าวกันว่า พระธาตุอิงฮัง เป็นพระธาตุคู่แฝดของพระธาตุพนม ที่ฝั่งไทยอีกด้วย (งานนมัสการพระธาตุพนม จัดขึ้นช่วงวันเพ็ญเดือนสาม ราวเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี)
คำว่า “อิงฮัง”มาจากคำว่า “พิงรัง” หรือพิงต้นรัง นั่นเอง พระธาตุอิงฮัง หรือ ธาตุอิงฮัง ถูกสร้างในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร โดยพระเจ้าสุมิตธรรมวงศา ประมาณ พ.ศ. 400 ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม สูง 24 เมตร ตัวประตูทางเข้าทั้งสี่ด้าน ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนกระดูกสันหลังพระพุทธเจ้า
เมื่อถึงศตวรรษที่ 9 อาณาจักรศรีโคตรบอง เริ่มเสื่อมอ่อนแอลงชนชาติขอมได้รุกเข้ามามีอำนาจแทน พระธาตุอิงฮัง จึงถูกดัดแปลงเป็นเทวสถานของศาสนาพราหมณ์ ภายใต้การนำของพระเจ้าสุมนธาธิราชราชา ได้มีการสร้างต่อเติมองค์พระธาตุ ตกแต่งลวดลาย ประติมากรรมเป็นเรื่องเมถุนสังวาส และรามายนะ นับแต่นั้นมาลักษณะศิลปกรรมของพระธาตุอิงฮัง จึงเป็นศิลปะแบบขอมโบราณ พร้อมกับเรียกชื่อว่า อินทรปราสาท
จนถึงศตวรรษที่ 14 ชนชาติลาวได้เข้ามามีอำนาจแทนขอม สมัยพระโพธิสารราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านช้าง ซึ่งเลื่อมใสพุทธศาสนาได้นำพุทธศาสนิกชนบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุพนม พระธาตุอิงฮัง พระธาตุโพนคึมใหญ่ จนถึงสมัยพระเจ้าไซยะเสดถาธิราช ได้ต่อเติมศิลปะล้านช้างเข้าไปในองค์พระธาตุอิงฮัง และเสริมยอดดวงปี ดัดแปลงให้เป็นพระธาตุทางพระพุทธศาสนา โดยฐานพระธาตุแต่ละด้านกว้าง 9 เมตร สูง 25 เมตร ปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบัน
ฐานเบื้องล่างองค์พระธาตุเจาะเป็นช่อง ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ในอดีตเปิดให้ผู้ชายเข้าชมได้ แต่ปัจจุบันปิดไม่ให้เข้า รอบผนังกำแพงวัดด้านในเป็นศาลาเดินวนรอบวัด มีพระพุทธรูปวางเรียงเป็นแนวยาวตลอด
การมานมัสการพระธาตุอิงฮัง สำหรับผู้หญิงต้องนุ่งซิ่นให้เรียบร้อย ถ้าใส่กางเกงขาสั้น ต้องนุ่งผ้าซิ่นทับ โดยจะมีผ้าถุงให้บริการก่อนเข้าไปนมัสการพระธาตุ โดยเสียค่าใช้จ่ายเข้าชมประมาณ 20 บาทไทย และหากต้องการเครื่องบูชา ก็สามารถบูชาจากชาวบ้านที่นำมาวางขายก่อนถึงพระธาตุได้ ส่วนภายในบริเวณวัดจะมีธูปเทียนบูชาเพื่อจุดนมัสการพระธาตุอิงฮัง และขอพรพระ ถ้ามีโอกาสก็อย่าลืมแวะมาดูสถาปัตยกรรมในโบราณสถานแห่งนี้กันได้ครับ
บริเวณฝั่งตรงข้ามทางเข้าพระธาตุอิงฮัง มีห้องการสาธารณสุข เมืองไกสอนพรมวิหาน สุขศาลาประจำหมู่บ้าน ธาตุอิงฮัง หากเทียบกับประเทศไทย น่าจะหมายถึง สถานีอนามัยประจำตำบล หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จึงถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก
เรียบเรียงจากประสบการณ์และข้อมูลจาก : http://www.rw2526.com/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&No=1246750
ขอบคุณภาพประกอบจาก : http://www.rw2526.com/images/wbans_1278903491/IMG_0155.jpg
